เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่ามีเด็กจมน้ำอยู่ในสระน้ำติดกับหนองน้ำบ้านพันทา ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยภาพข่าวศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ รพ.ศรีสะเกษ ไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบชาวบ้านกำลังช่วยกันนำร่างเด็กที่จมน้ำขึ้นมาจากจุดเกิดเหตุ จำนวน 2 คน ทราบชื่อคือ ด.ช.นัฐวุฒ ค่ำคูณ หรือ น้องเกล้า อายุ 8 ปี และ ด.ช.อนุพงษ์ ผงเสน่ห์ หรือ น้องแสน อายุ 7 ปี สภาพหมดสติ ไม่รู้สึกตัวทั้งคู่ ก่อนจะนำส่ง รพ.ศรีสะเกษ และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
นางหล่ำ ผงเสน่ห์ อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นย่าของน้องเกล้า เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า น้องเกล้า หลานของตนไปตักน้ำในสระน้ำดังกล่าว เพื่อนำมาดับไฟที่ลามทุ่ง กับ น้องแสน ซึ่งต้นเพลิงเกิดจากพ่อของน้องเกล้า คือลูกชายของตน ได้เผาขยะทิ้งไว้แล้วเผลอนอนหลับ ทำให้ไฟลามทุ่งขยายวงกว้าง น้องเกล้าเห็นไฟกำลังลุกลาม จึงได้ช่วยกันกับน้องแสน ไปตักน้ำในสระเพื่อจะมาดับไฟ ตอนแรกตนเองก็ไม่รู้ว่าหลานหายไปตั้งแต่ตอนไหน มารู้อีกทีมีหลานสาววิ่งมาบอกว่าน้องเกล้าหายไปนานเป็นชั่วโมงแล้ว ไม่ใช่ตายแล้วหรอ จึงได้พากันออกไปดู และร้องให้คนช่วยพร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ
ด้าน นายพัชรพล วนันโท อายุ 29 ปี ชาวบ้านใกล้กับจุดเปิดเหตุ เปิดเผยว่า ตอนนั้นเกิดเหตุไฟไหม้ที่ทุ่งหญ้าริมห้วยพันทาใหญ่ อยู่บริเวณหลังร้านของตน และได้มีชาวบ้านรายหนึ่งวิ่งเข้ามาบอกให้ไปช่วยเด็กจมน้ำหน่อย ซึ่งตกสระน้ำจมน้ำมานานแล้ว ตนจึงพยายามจะเข้าไปช่วยแต่ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ เนื่องจากติดไฟลามทุ่งที่มีวงกว้าง ไม่สามารถเข้าช่วยได้ทันเวลา
เบื้องต้นเจ้าหน้าดับเพลิงจากเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้นำรถดับเพลิงลงไปช่วยฉีดน้ำดับไฟที่ลามทุ่งแล้ว ซึ่งตอนนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว ส่วนเด็กผู้เสียชีวิตทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพให้กับญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน